Kisah tentang penjajahan Jepang Tah

Kisah tentang penjajahan Jepang Tahun 1942 yg melarang pengibaran bendera merah putih, melarang lagu Indonesia Raya dan memaksa rakyat Indonesia untuk melakukan Sekerei. Tokoh besar agamis saat itu "KH Hasyim Asyari" menolak melakukan Sekerei karena tindakan itu menyimpang dari aqidah agama Islam. Sebagai umat Islam hanya boleh menyembah kepada Allah SWT. Karena tindakan berani itu, KH Hasyim Asyari ditangkap Jepang. Salah satu santri KH Hasyim Asyari "Harun", menghimpun kekuatan santri untuk melakukan demo menuntut kebebasan KH Hasyim Asyari. Tapi cara tersebut malah menambah korban berjatuhan. Sedangkan salah satu putranya "KH Wahid Hasyim", mencari jalan damai dan berhasil memenangkan diplomasi yang berhasil membebaskan KH Hasyim Asyari.

Tahun 1942 Jepang melakukan ekspansi ke Indonesia. Di Jawa Timur, beberapa KH dari beberapa pesantren ditangkapi karena melakukan perlawanan. KH Hasyim Asy'ari sebagai pimpinan Pondok Pesantren Tebu Ireng ditangkap karena dianggap menentang Jepang. Penangkapan ini membuat kericuhan di Tebu Ireng, dan menimbulkan reaksi dari para putra beliau; KH Wahid Hasyim, Karim Hasyim dan Yusuf Hasyim serta deretan para santri: Baidlowi (menantu beliau), Kang Solichin, orang kepercayaan, serta tiga santri muda; Harun, Kamid dan Abdi.

Penangkapan itu membuat situasi pesantren kacau. Maisyaroh,lebih kerap disebut Nyai Kapu, istri KH Hasyim Asy'ari, diungsikan ke daerah Denaran. KH Wahid Hasyim bersama Wahab Hasbullah meminta agar KH Hasyim Asy'ari dibebaskan. Kepala Kempetei yang menahan beliau, tidak bersedia membebaskan. Bahkan KH Hasyim Asy'ari dipindah penjara hingga tiga kali. Mulai dari penjara Jombang, Mojokerto hingga ke penjara Bubutan Surabaya. KH Wahid Hasyim dan KH Wahab Hasbullah lalu meminta bantuan Abdul Hamid Ono, orang Jepang, kenalan keluarga. Sementara proses berlangsung, KH Wahid Hasyim dan KH Wahab Hasbullah mengadakan pertemuan NU di Jakarta, dengan agenda membebaskan para Kiai. Dalam pertemuan tersebut dicapai kesepakatan jalan damai.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรื่องราวของการยึดครองของญี่ปุ่นในปี 1942 เขียนห้ามธงขาวแดง ห้ามเพลงอินโดนีเซียรายา และบังคับคนอินโดนีเซียทำ Sekerei แบบหล่อขนาดใหญ่ของข้อความทางศาสนาฮินดูเมื่อมัน "KH มอ Asy'ari" ปฏิเสธที่จะทำ Sekerei เพราะเรื่อง strayed จากความเชื่อของอิสลาม เป็นมุสลิมสามารถบูชากับพระเจ้าผู้ทรงอำนาจเท่านั้น เนื่องจากการกระทำของกล้าว่า KH มอ Asy'ari ญี่ปุ่นจับกุม Santri KH มอ Asy'ari "แอรอน" หนึ่งรวบรวมนักเรียนกำลังทำการสาธิตที่เรียกร้องเสรีภาพของ KH มอ Asy'ari แต่วิธีจะเพิ่มจำนวนคนตาย พบวิถีสันติภาพและชนะการทูตการจัดการเพื่อการปลดปล่อย Asy'ari มอ KH ขณะหนึ่งบุตร "KH วาฮิดฮาเซ็ม"ในปี 1942 ญี่ปุ่นที่ขยายเข้าไปในอินโดนีเซีย ในชวาตะวันออก pesantren บางถูกปัดเศษขึ้นจาก KH กี่สำหรับต้านทาน KH มอ Ash'ari เป็นผู้นำของอีตัวและเท้าถูกจับกุมประจำโรงเรียน เพราะถือว่าต่อต้านญี่ปุ่น ความโกลาหลในอีอ้อย และสาเหตุปฏิกิริยาจากบุตรทำการจับกุมนี้เขา KH วาฮิดฮาเซ็ม ฮา ชิม Karim และ มอยูซุฟ เป็นแถว santri: Baidlowi (เขาเป็นลูกเขย), หมวดหมู่: แกง confidant เป็นนักเรียนหนุ่มสาม แอรอน Kamid การ และคนจับกุมที่เกิดสถานการณ์วุ่นวายประจำโรงเรียน Maisyaroh เพิ่มเติมมักจะเรียกว่านาง Kapu ภรรยาของ KH มอ Ash'ari อพยพไปยังพื้นที่ Denaran KH วาฮิดฮาเซ็มตาม Wahab Hasbullah ถามว่า KH มอ Ash'ari รอด หัว Kempetei ค้างเขา ไม่ยอมปลดปล่อย Ash'ari มอ KH แม้ถูกย้ายคุกสามครั้ง เริ่มจาก Jombang, Mojokerto คุกเรือนจำ Bubutan สุราบายา KH วาฮิดฮาเซ็มและ KH Wahab Hasbullah เหิมช่วย Abdul ฮาโอโนะ คนญี่ปุ่น คนรู้จักของครอบครัว ขณะกระบวนการระหว่างดำเนิน KH วาฮิดฮาเซ็มและ KH Wahab Hasbullah NU จัดประชุมจาการ์ตา กับปลด Kiai วาระการประชุม การประชุมข้อตกลงแบบสงบสุขแล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรื่องราวของการยึดครองของญี่ปุ่น 1942 ที่ห้ามยกธงห้ามเพลงอินโดนีเซียอินโดนีเซียรายาและบังคับให้คนที่จะทำ Sekerei ผู้นำทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่แล้ว "KH Hasyim Asyari" ปฏิเสธที่จะทำ Sekerei เพราะการกระทำผิดไปจาก Aqeedah ของศาสนาอิสลาม ในฐานะที่เป็นชาวมุสลิมได้รับอนุญาตให้บูชาเพียง SWT อัลลอ เพราะการกระทำที่กล้าหาญ KH Hasyim Asyari จับโดยชาวญี่ปุ่น หนึ่งในนักเรียน KH Hasyim Asyari "แอรอน" นำพลังของนักเรียนที่จะทำการสาธิตการเรียกร้องเสรีภาพ KH Hasyim Asyari แต่วิธีการที่มันเพิ่มให้กับการบาดเจ็บล้มตาย ในขณะที่บุตรชายคนหนึ่ง "KH Wahid Hasyim" มองหาวิธีที่สงบสุขและได้รับรางวัลทูตประสบความสำเร็จในการปลดปล่อย KH Hasyim Asyari. ใน 1942 ญี่ปุ่นขยายตัวในอินโดนีเซีย ใน Java ตะวันออกบางส่วนของ KH Pesantren บางส่วนถูกจับในข้อหาต่อต้าน KH Hasyim Ashari เป็นหัวหน้า Boarding อ้อย Ireng จับกุมเพราะพวกเขาเป็นศัตรูกับญี่ปุ่น การจับกุมเหล่านี้สร้างความวุ่นวายในอ้อย Ireng และทำให้เกิดปฏิกิริยาจากลูกชายของเขา; KH Wahid Hasyim, คาริมฮาชิมและยูซุฟ Hasyim เช่นเดียวกับแถวของนักเรียน: Baidlowi (ลูกสาวของเขา), คัง Solichin สนิทและสามเด็กนักเรียน; อาโรนและอับ Kamid. จับกุมถูกทำให้สถานการณ์วุ่นวายขึ้น Maisyaroh เรียกว่าบ่อยขึ้น Nyai Kapu ภรรยา KH Hasyim Ashari ถูกอพยพไปยังพื้นที่ Denaran KH Wahid Hasyim ร่วมกัน Wahab Hasbullah ขอให้ KH Hasyim Ashari ปล่อยออกมา Kempetei ถือหัวของเขาไม่เต็มใจที่จะปลดปล่อย KH Hasyim Ashari ย้ายแม้โทษจำคุกถึงสามครั้ง เริ่มต้นจากคุก Jombang, Mojokerto ถึงคุก Bubutan สุราบายา KH Wahid Hasyim และ KH Wahab Hasbullah อับดุลฮามิดและขอความช่วยเหลือโน่, ญี่ปุ่น, ความใกล้ชิดในครอบครัว ขณะที่กระบวนการเป็นชิ้น KH Wahid Hasyim และ KH Wahab Hasbullah NU ในจาการ์ตาจัดประชุมที่มีวาระการพ้น kiai ที่ ในระหว่างการประชุมข้อตกลงก็มาถึงทางสันติสุข