Political Reform[edit]Under Habibie

Political Reform[edit]
Under Habibie, Indonesia made significant changes to its political system that expanded competition and freedom of speech. Shortly after taking office, in June 1998, Habibie's government lifted the Suharto-era restriction on political parties and ended censorship by dissolving the Information Ministry. He also quickly committed to holding democratic elections, albeit on an initially vague timetable. In December, he proposed political reform laws that were passed by the legislature and MPR session. These laws set elections for December 1999, reduced the number of seats in parliament held by the military, and barred political activity by civil servants.[19]

However, political opponents criticized Habibie for agreeing to give the military some seats in parliament, and taking little action on other military and judicial reforms.[20] The military retained its territorial command system and practice of seconding officers to civil-service posts, and there were few prosecutions for Suharto-era corruption under Habibie.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[แก้ไข] การปฏิรูปทางการเมืองภายใต้ Habibie อินโดนีเซียทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของระบบการเมืองที่ขยายการแข่งขันและเสรีภาพในการพูด หลังจากการสำนักงาน ในเดือน 1998 มิถุนายน รัฐบาลของ Habibie ยกจำกัดซูยุคพรรคการเมืองและการยุบเหลือเซ็นเซอร์ที่สิ้นสุดตามข้อมูลกระทรวง เขายังรวดเร็วมุ่งมั่นที่จะกดเลือกตั้งประชาธิปไตย แม้ว่าในเวลาเริ่มคลุมเครือ ในเดือนธันวาคม เขาเสนอกฎหมายปฏิรูปการเมืองที่ผ่านได้เพียงทูลเกล้าทูลกระหม่อมและเซสชัน MPR เหล่านี้กฎหมายกำหนดการเลือกตั้งในเดือน 1999 ธันวาคม ลดจำนวนที่นั่งในรัฐสภาจัด โดยทหาร และกีดขวางทางการเมืองกิจกรรมโดยราชการ [19]อย่างไรก็ตาม การเมืองฝ่ายตรงข้ามวิพากษ์วิจารณ์ Habibie เงื่อนไขให้ทหารบางที่นั่งในรัฐสภา และกระทำการน้อยในอื่น ๆ การปฏิรูปกองทัพ และยุติธรรม [20] ทหารรักษาดินแดนสั่งระบบความปฏิบัติของ seconding เจ้าหน้าที่การโยธาบริการโพสต์ และมีไม่กี่คดีการทุจริตยุคซูภายใต้ Habibie

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การปฏิรูปทางการเมือง [แก้ไข]
ภายใต้ฮาบิบีอินโดนีเซียทำให้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระบบการเมืองที่ขยายตัวการแข่งขันและเสรีภาพในการพูด ไม่นานหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายนปี 1998 รัฐบาลของฮาบิบียกข้อ จำกัด ในยุคซูฮาร์โตพรรคการเมืองและจบลงด้วยการเซ็นเซอร์โดยการละลายข้อมูลกระทรวง นอกจากนี้เขาได้อย่างรวดเร็วแทรกแซงมุ่งมั่นที่จะจัดการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยแม้ว่าในตารางเวลาที่คลุมเครือในขั้นต้น ในเดือนธันวาคมที่เขาเสนอกฎหมายการปฏิรูปทางการเมืองที่ถูกส่งผ่านโดยรัฐสภาและสภาเซสชั่น ความคิดเห็นกฎหมายเหล่านี้กำหนดเลือกตั้งในเดือนธันวาคมปี 1999 ลดจำนวนของที่นั่งในรัฐสภาที่จัดขึ้นโดยทหารและห้ามกิจกรรมทางการเมืองโดยข้าราชการ. [19] อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ฮาบิบีเห็นพ้องที่จะให้ทหารที่นั่งบางส่วนในรัฐสภาและการ การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการปฏิรูปการทหารและการพิจารณาคดีอื่น ๆ . [20] ทหารสะสมระบบคำสั่งดินแดนและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ seconding ที่จะโพสต์ประชาบริการและมีการฟ้องร้องไม่กี่สำหรับความเสียหายภายใต้ซูฮาร์โตยุคฮาบิบี